วันศุกร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2554

มิกกี้เมาส์น่ารัก



        มิกกี้ เมาส์ (อังกฤษ: Mickey Mouse) เป็นตัวละครการ์ตูนที่ครองใจเด็กๆทั่วโลก มีลักษณะเป็นหนูสีดำ สวมกางเกงเอี๊ยมสีแดง ถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2471 โดยวอลต์ ดิสนีย์ และอับ ไอเวิร์กส ให้เสียงโดยวอลต์ ดิสนีย์
จุดกำเนิดของมิกกี้ เมาส์ เกิดขึ้นขณะที่วอล์ต ดิสนีย์ นั่งอยู่บนรถไฟระหว่างทางมุ่งสู่ลอสแอนเจลิส เขาลงมือสเก็ตช์ภาพคาแรกเตอร์หนูเล็ก ๆ สวมกางเกงสีแดง ขึ้นมา โดยมีอับ ไอเวิร์กสออกแบบรูปร่างลักษณะ การ์ตูนเสียงเรื่องแรก "Steamboat Willie" เข้าฉายที่ New York's Colony Theatre โดยทางนิวยอร์กไทม์เขียนไว้ว่า "เป็นผลงานที่มีความคิดสร้างสรรค์เยี่ยมยอดและสนุก                                                               

        บุคลิกของมิกกี้ เมาส์คือ มองโลกในแง่ดี มีความกระตือรือร้น ถ่อมตัวและเรียบง่าย ซื่อสัตย์ ชอบร้องอุทาน "Gosh" หรือบางครั้งก็ "Oh boy!", "Aw-Gee" ,"Uh-Oh!" ชอบอ่าน Newsweek, time, Life, National Geographic, Good Housekeeping มีหวานใจชื่อว่ามินนี่เมาส์ซึ่งเป็นตัวการ์ตูนที่ครองใจเด็กๆทั่วโลกเช่นกัน นอกจากนี้มิกกี้เมาส์ยังมีสุนัขสีน้ำตาลแสนรัก ชื่อว่า พลูโตที่เป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ ฉลาดและแสนรู้

 







วันพุธที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2554

10 อันดับ สุดยอดอาหารสุดโหด

อาหารเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับชีวิตมนุษย์ที่จะทำให้เรามีชีวิตอยู่ได้ในโลกใบนี้ มนุษย์ก็จะสรรหาวัตถุดิบต่างๆ มาทำเป็นอาหาร เพื่อให้มีรสชาติ หรือช่วยให้ร่างกายอุดมสมบูรณ์ แต่ในบทความที่นำมาให้ดูนี้ มาดูวัตถุดิบที่นำมาทำเป็นอาหารที่ถ้าใจไม่กล้าคงทานไม่ได้แน่ บางอย่างที่เราคิดว่าไม่ควรนำมาทำเป็นอาหารได้นั้น แต่ก็มีผู้คิดค้นขึ้นมาจนได้ มาดูกันว่าอาหารสุดโหดนั้นทำมาจากอะไรกันบ้าง

10 อันดับ สุดยอดอาหารสุดโหด
อันดับที่ 10 หนู

     เป็นอาหารสุดฮิตของอเมริกาใต้ โดยเฉพาะประเทศยากจนอย่าง เปรู ปารากวัย หนูคือแหล่งโปรตีนสำคัญที่เดียว และเป็นเมนูหลักๆ ของร้านอาหาร และภัตตาคารใหญ่ๆ โดยชาวปารากวัยต่างลิ้มลองเชื่อว่าการกินหนูจะช่วยให ้ผิวกระชับมากขึ้น ผิวเนียนอีกต่างหาก ซึ่งหนูตัวใหญ่เขาจะมาย่างเป็นหนังกรอบหอมเสริฟแบบแฮ มเบอร์เกอร์เลยที่เดียว ส่วนหนูทารกตัวสีชมพูแดงๆ ก็จะหย่อนหนูเป็นๆ ลงท้องทันทีตามด้วยนมสดสักแก้ว หรือไม่ก็จะอร่อยแบบศิวิไลหน่อยก็จับลูกหนูใส่ในขนมปังหรือกล้วยหอมแล้วยัด ใส่ปากเคี้ยวกร้วมๆ ร้องจิ๊ดๆ




10 อันดับ สุดยอดอาหารสุดโหด
อันดับ ที่ 9 สตู ค้างคาว

     อาหารขึ้นชื่อของเวียดนาม ประเทศที่กำลังเจริญกว่าไทยน่ะแหละ ขายดิบขายดี แถมยังหรูและหายากมาก โดยเฉพาะเมืองหลวงไซ่งอนน่ะมันอยู่ในระดับภัตตาคารหรูเท่านั้น ซึ่งชาวเวียดนามเชื่อกันว่าเนื้อค้างคาวคือราชันย์แห่งเนื้อทั้งปวงการกิน น่ะหรือ ทำได้หลายวิธี เช่นทำซุป หรือนำมาสับเป็นชิ้นๆ เคี้ยวเป็นสตู หรือไม่ก็ใช้มีดคมๆ ตัดหัวค้าวคาวทันที จากนั้นก็รีดเลือดที่หยดจากร่างไร้หัวใส่แก้วเปล่าแล ้วดื่มกินสดๆ ทันที




10 อันดับ สุดยอดอาหารสุดโหด
อันดับ ที่ 8 สตู เนื้อหมาดำ

     พูดถึงเอเชียก็ต้องเนื้อหมา กินกันทั้งเกาหลี เวียดนาม ไทย แต่ถ้าจะหาประเทศที่กินเนื้อหมาได้มีลีลาเด็ดอร่อยก็ ประเทศอินโดนีเซียเพื่อนบ้านของเรานั้นเองเพราะพี่เพ ื่อนบ้านแกทำหลายเมนูมาก โดยเฉพาะเนื้อหมาดำว่ากันว่ามีรสอร่อยกว่าเนื้ออื่นๆ ทั้งปวง แถมนุ่มกว่าเนื้อหมาสีอื่นๆ ทำให้เวลานี้หมาดำชักจะหายจากถนนและบ้านเรือนของอินโดนีเซียไปแล้ว




10 อันดับ สุดยอดอาหารสุดโหด
อันดับ ที่ 7 หัวแกะสด-ต้ม

     จากหลายประเทศ รอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นเมนูที่คุ้นเคยอย่างยิ่งของชาวเมืองแถบนั้นว่ากั นว่าหัวแกะถือว่าเป็นอาหารสุดยอดของแกะ เมื่อถึงเทศกาลปีใหม่ของชาวยิวที่เรียกว่า รอช อาแชน่า หัวแกะถูกนำมาเสิร์ฟพร้อมกับความหมายที่ว่า ใครก็ตามได้กินหัวแกะนั้นจะได้รับโชคดีในวันปีใหม่ที่จะมาถึง แต่ถ้ากินลูกนัยตาของลูกแกะเข้าไปย่อมโชคดีมากขึ้นไปอีก ส่วนรสชาติหลายๆ คนให้ความเห็นว่า "เค็มเหลือเกินพับผ่า"




10 อันดับ สุดยอดอาหารสุดโหด
อันดับ ที่ 6 ขนมพายครีบแมวน้ำ

     ชาวนิวฟาวด์แลนด์กินพายที่มาจาก ครีบแมวน้ำนั้นถือว่า เป็นสิ่งวิเศษ และต้องกินก็ได้ถ้ามีโอกาส และด้วยเหตุนี้ส่งผลให้แต่ละปีจะมีแมวน้ำมากมายมหาศาลต่างถูกจับตัวขึ้นมา ตัดครีบทั้งสองข้าง จากนั้นก็ถีบลงเรือและปล่อยให้จมน้ำตายในทะเลไปอย่าง น่าสมเพชที่สุด ในภัตตาคารใหญ่ๆ หลายต่อหลายแห่งก็มีเมนูชนิดนี้เปิดขายทั้งแบบปกปิดแ ละเปิดเผย เพราะนานาประเทศยังต่อต้านเมนูนี้อยู่




10 อันดับ สุดยอดอาหารสุดโหด
อันดับ ที่ 5 สมองลิงแสนสนุก

     วิธีการทำและการกินก็ง่าย ก็เอาลิงพันธุ์อะไรก็ได้แล้วแต่มีให้ มาหนีบกับโต๊ะโดยมีส่วนหัวด้านบนโผล่ออกมา จากนั้นพ่อครัวก็ใช้วิชาบาร์เบอร์โกนขนส่วนบนของลิงอ อกจนเกลี้ยงเกลาจากนั้นก็ใช้สิ่วและค้อนเฉาะกะโหลกขอ งลิงออกคล้ายกับกะเทาะมะพร้าวอ่อนและแล้วลูกค้าก็จะรีบตักกินสมองลิงอย่าง รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้นานเกินไปสมองลิงจะยุบและลดปริมาณอย่างรวดเร็ว แต่บางครั้งเขาก็เสิร์ฟสมองลิงแบบแช่แข็งไว้ด้วย เพื่อลดภาระสมองลิงหดตัวอย่างรวดเร็วอีกทางหนึ่ง




 10 อันดับ สุดยอดอาหารสุดโหด
อันดับ ที่ 4 ปลาสองแผ่นดิน

     เมนูนี้สามารถหากินได้จากประเทศ จีนหรือไทยก็ได้ครับ วิธีการทำต้องใช้ฝีมือหน่อย เริ่มจากนำมาเก๋าขนาด 2 ก.ก. มาขอดเกล็ดออกให้หมดแล้วนำมาล้าง ก่อนจะใช้ผ้าเย็นที่แช่เย็นจัดพันส่วนหัวจนถึงพุงปลา แล้วก็ใช้มีดบั้งตัวปลาตั้งแต่ส่วนหางขึ้นมาจนถึงกลา งลำตัว ระหว่างนั้นตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไปรอให้เดือดเต็ม ที่ แล้วก็นำหางปลาช่วงที่บั้งจุ่มลงไปทอดครึ่งตัว ซึ่งเป็นภาพที่หวาดเสียวมาก เพราะปลาจะดิ้นตลอดเวลาด้วยความเจ็บปวด ต้องใช้คีมคีบที่หัวปลาเอาไว้ รอจนเนื้อปลาสุกเป็นสีเหลือง ก็ยกขึ้นนำมาวางบนจานแต่งด้วยเครื่อง ยกเสิร์ฟโดยครึ่งบนปลายังเป็นๆ อยู่ อ้าปากพะงาบๆ ครีบยังกระดิกได้ แต่ครึ่งล่างทอดจนสุก กินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดและซอสเปรี้ยว โดยคนจีนเชื่อว่าการทานปลาสองแผ่นดินเป็นยาชูกำลังให้กินมากๆ จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงน่ะจะบอกให้ เชื่อไหม




10 อันดับ สุดยอดอาหารสุดโหด
อันดับ ที่ 3 อุ้งตีนหมี

     เป็นอาหารที่นักเปิบมหาภัยชอบ มากและเป็นเมนูสุดโหด เพราะการตัดอุ้งตีนหมีนั้น ไม่สามารถตัดขณะที่หมียังมีชีวิตได้ การฆ่าหมีเองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะหนังหมีจะหนามาก ยากต่อการฆ่า ดังนั้น ผู้ฆ่าจึงจับหมีถ่วงน้ำทั้งเป็นหมีความส่งเสียงร้องดังโหยหวนเมื่อถูกตะขอ เหล็ก เกี่ยวร่างออกจากกรงขัง ไม่กี่นาทีต่อมามันก็ตกอยู่ในความมืดมิด เมื่อถูกกระสอบสวมคลุมร่าง นักท่องเที่ยวจะยืนมองวินาทีสุดท้ายของหมีควายโชคร้ายในถังเก็บน้ำใบเขื่อง ด้วยสายตาเฉยชา หลังจากร่างใหญ่ดิ้นพราดๆ อยู่เพียงครู่ ทุกอย่างก็สงบลง เพชฌฆาตรีบลงมีดเลือดสดๆ ไหลทะลักจากคอหมีลงสู่ถ้วยขนาดย่อม เลือดในถ้วยถูกผสมด้วยเหล้าขาวแล้วเวียนกันดื่ม หลังจากยืนดู การชำแหละอุ้งตีนหมีเสร็จสิ้น นักท่องเที่ยวจึงกลับไปที่โต๊ะ นั่งรออาหารจานเด็ดที่เชื่อว่าจะช่วยทำให้คนแข็งแกร่ งในกามกรีฑา ดุจเดียวกับความแข็งแรงของอุ้งตีนหมี




10 อันดับ สุดยอดอาหารสุดโหด
อันดับ ที่ 2 ซุปตัวอ่อนมนุษย์

     เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงน่ะครับ เมนูนี้เป็นอาหารเฉพาะบางกลุ่มเท่านั้นน่ะครับ มันมีขายอยู่ที่เฉินเซ่น ประเทศจีนการกินตัวอ่อนของมนุษย์ หรือทารกที่เพิ่งคลอดนั้นเป็นความเชื่ออย่างลับๆ ว่า จะช่วยเพิ่มคุณค่าอาหารหลายอย่างในหมู่ชาวจีน นั้นก็คือทำให้ผิวสวยเนียน ร่างกายแข็งแรงต้านทานโรค และที่เชื่อกันมากก็คือช่วยบำรุงไตได้ดีสำหรับวิธีการทำก็ไม่ยากเท่าไหร่ แค่เอาเด็กทารกแรกคลอด หรือเด็กที่ตายจากการทำคลอด ยิ่งเป็นเด็กผู้ชายยิ่งดี(เขาบอกว่ามีคุณค่าทางอาหาร สูง) มาสับ มาเคี่ยวเป็นซุปและใส่เนื้อหมูลงไปเป็นอันเสร็จ……….. รสชาติเหมือนซุปสมุนไพรอย่างไรก็ตามการนำเด็กทารกมาทำตุ๋นยาจีนเป็นอาหารที่ ประเทศจีนนั้น ถือว่าผิดกฎหมาย ทำให้เมนูนี้ ต้องมีการสั่งเป็นพิเศษ หรือไม่ก็แอบทำให้กับพวกที่อยากรับประทานอาหารแบบพิสดาร แบบนี้




10 อันดับ สุดยอดอาหารสุดโหด
อันดับ ที่ 1 เนื้อมนุษย์ ที่ปาปัว นิว กินี

     อันดับหนึ่งของเรา ที่ปาปัว นิว กินี เวลามีใครตายขึ้นไม่ว่าจะเป็นญาติของตน หรือคนต่างเผ่าที่ตกอยู่ในครอบครองของตน เขาจะไม่นำศพไปฝังหรือเผา แต่จะนำศพไปไว้บนตะแกรงที่ยกพื้นสูงขนาดท่วมหัว ปล่อยให้ศพอยู่ในสภาพนั้นจนขึ้นอืด เกิดน้ำเหลืองเยิ้มไปทั้งตัวดีแล้ว ก็จะเข้าป่าหาใบไม้ที่เป็นเครื่องเทศเอามาพับเป็นกระทงเล็กๆ (คงอย่างที่เตรียมใบชะพลูจะกินกับเมี่ยง) เหมาะที่จะมีขนาดกินคำเดียว แล้วก็เชิญพรรคพวกเพื่อนฝูงให้มารวมกันอยู่ใต้ตะแกรง ศพนั้น นำเอาไม้ปลายแหลมแทงศพให้เป็นรู ให้น้ำเหลืองไหลย้อยออกมา นำกระทงใบไม้ที่เตรียมไว้ รองรับน้ำเหลืองนั้น พอได้มากดีแล้วก็กินทั้งน้ำเหลืองและใบไม้กินกันจนไม่มีน้ำเหลืองแล้วก็นำศพ นี้ไปต้มซุปกับผักต่างๆ กินกันต่อไปแต่ถ้าจะกินมนุษย์ที่สะใจที่สุดต้องยกให้ชนเผ่า โดโบดูรัส นิยมจับเหยื่อที่ล่ามาได ้มากินแบบเป็นๆ นั้นคือต้องทรมานเหยื่อจนใกล้จะตายแต่ไม่ให้ถึงตาย จากนั้นก็เจาะกะโหลกให้เป็นรูลึกๆ เสียก่อน แล้วค่อยสอดไม้เล็กๆ ที่มีปลายแบบชอนเข้าไปตักสมองออกมากิน เหยื่อก็ดิ้นไปดิ้นมา ดูแล้วก็ ... เฮือก.. !? ตรูว่า ชุมนุมสางเขียวนี่มานโหดมากแล้วนะ มาเจอไอ้พวกนี้ เป็นคนดีไปทีเดียว

5 อันดับสถานที่เปลือยของโลก

5 อันดับสถานที่เปลือยของโลก

เว็บไซต์ของ 'Lonely Planet' ได้จัดอันดับสุดยอดสถานที่จากทั่วโลกที่จะทำให้คุณเปลือยได้อย่างไม่อายใคร การเปลื้องผ้าเมื่ออยู่ท่ามกลางฝูงชนคงไม่ใช่เรื่องน่าอายอีกต่อไป เมื่อเว็บไซต์ 'Lonely Planet' ได้จัดอันดับ 5 สถานที่ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเปลือยกายได้อย่างไม่ต้องอายใคร


image


1. บ่อน้ำร้อนออนเซน ประเทศญี่ปุ่นบ่อน้ำร้อนของที่นี่ส่วนใหญ่เป็นน้ำแร่ธรรมชาติ นักท่องเที่ยวต้องเปลือยกายเพื่อแช่น้ำร้อน โดยบางแห่งจะเข้มงวดขนาดที่ห้ามผู้ที่มีรอยสักเข้าแช่น้ำเด็ดขาด


image


2. งานเทศกาลภาพถ่ายคนเปลือยของสเปนเซอร์ ทูนิคส์ ช่างภาพชื่อดังชาวอเมริกัน ที่แต่ละปีมักจะมีการจัดงานชุมนุมคนเปลือยตามสถานที่ต่างๆทั่วโลก โดยในปี 2003 มีผู้ร่วมเปลือยเพื่อถ่ายภาพทั้งหมดถึง 7,000 คนที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน


image


3. คลับ 300 ที่แอนตาร์กติกา แม้อุณหภูมิภายนอกอาจติดลบ 70 องศา แต่เมื่อนักท่องเที่ยวมายังสถานที่อบเซาว์หน้าแห่งนี้ อาจจะต้องเปลือยกายท่ามกลางความร้อนเกือบ 100 องศาเซลเซียส โดยด้านหน้าคลับ 300 นั้นมีหมุดซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของขั้วโลกปักอยู่ นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวแอนตาร์กติกา หากไม่มายังจุดนี้ก็เหมือนมาไม่ถึง


image


4. สระว่ายน้ำ 40 ฟุต ริมชายหาดเมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ สระน้ำแห่งนี้ก็คือทะเลนั่นเอง โดยนักท่องเที่ยวสามารถถอดเสื้อผ้าไว้ที่ห้องแต่งตัวและเดินลงบันไดไปหน้าหาดได้ทันที แต่มีกฎอยู่ข้อหนึ่งที่ทุกคนต้องปฏิบัติร่วมกันคือ หลัง 9 โมงเช้า นักท่องเที่ยวทุกคนต้องสวมชุดว่ายน้ำ เพราะเป็นเวลาที่คนเริ่มพลุกพล่าน


image


5. บ้านอบเซาว์น่าของประเทศฟินแลนด์ ที่นี่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ที่มักจะตั้งอยู่กลางหุบเขาที่หนาวเหน็บ อุณหภูมิในเซาว์น่าบางแห่งอาจสูงถึง 100 องศาเซลเซียส ปัจจุบันมีที่อบเซาว์น่าในฟินแลนด์มากกว่า 2 ล้านแห่งทั่วประเทศ


หากใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.lonelyplanet.com แล้ว SEARCH คำว่า Best places to get naked